
time blocking
เวลา 24 ชั่วโมงในหนึ่งวันผ่านไปเร็วมากใช่ไหม? หลายคนรู้สึกว่า "เวลาไม่พอ!" วิธีการหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในยามนี้ก็คือ 'การจัดการเวลาแบบ Time Blocking' วิธีการนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นวิธีการจัดการเวลาของคนประสบความสำเร็จอย่าง อีลอน มัสก์ (Elon Musk) และ บิล เกตส์ (Bill Gates) วันนี้เราจะมาดูกันว่าการจัดการเวลาแบบ Time Blocking คืออะไร และจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร
1. การจัดการเวลาแบบ Time Blocking คืออะไร?
การจัดการเวลาแบบ Time Blocking คือการแบ่งเวลาในแต่ละวันออกเป็นช่วงๆ และกำหนดกิจกรรมเฉพาะเจาะจงให้กับแต่ละช่วงเวลา ตัวอย่างเช่น ตั้งแต่เวลา 9.00 น. ถึง 11.00 น. ทำงาน 11.00 น. ถึง 12.00 น. ออกกำลังกาย 13.00 น. ถึง 14.00 น. ตรวจสอบอีเมล เป็นต้น โดยการแบ่งเวลาเป็นบล็อกๆ แบบนี้จะช่วยให้ลดการเสียเวลาที่ไม่จำเป็นและเพิ่มความสามารถในการจดจ่อ
2. ข้อดีของการจัดการเวลาแบบ Time Blocking
- เพิ่มประสิทธิภาพ : การกำหนดสิ่งที่ต้องทำไว้ล่วงหน้าในแต่ละช่วงเวลาจะช่วยลดเวลาที่ต้องเสียไปกับการคิดว่าควรจะทำอะไร
- เพิ่มความสามารถในการจดจ่อ : เนื่องจากสามารถมุ่งความสนใจไปที่กิจกรรมเพียงอย่างเดียวในช่วงเวลาหนึ่งๆ จึงช่วยลดความเครียดจากการทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้
- ลดความเครียด : การมีตารางงานที่เป็นระบบจะช่วยลดความเครียดได้ เนื่องจากเพียงแค่ทำตามแผนที่วางไว้ก็เพียงพอแล้ว
3. วิธีการใช้การจัดการเวลาแบบ Time Blocking ในชีวิตจริง
ลองปฏิบัติตามขั้นตอนง่ายๆ ด้านล่างนี้เพื่อใช้การจัดการเวลาแบบ Time Blocking ดูสิครับ:
- ขั้นตอนที่ 1: กำหนดลำดับความสำคัญ
เขียนสิ่งที่ต้องทำในหนึ่งวันลงไปทั้งหมด แล้วเรียงลำดับความสำคัญจากสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อน - ขั้นตอนที่ 2: แบ่งเวลาเป็นบล็อกๆ
แบ่งเวลาในหนึ่งวันออกเป็นบล็อกๆ แล้วกำหนดสิ่งที่ต้องทำให้กับแต่ละบล็อก ตัวอย่างเช่น ในช่วงเช้าที่ความสามารถในการจดจ่อสูง ควรจัดการกับงานที่สำคัญ ส่วนในช่วงบ่ายอาจจัดการกับงานที่ไม่สำคัญเท่าไหร่หรือการประชุม - ขั้นตอนที่ 3: วางแผนเวลาพักผ่อนด้วย
การพักผ่อนก็สำคัญเช่นกัน การวางแผนให้มีเวลาพักผ่อนสั้นๆ 5-10 นาทีในระหว่างวันจะช่วยให้สามารถรักษาความสามารถในการจดจ่อได้อย่างต่อเนื่อง
4. เครื่องมือที่ช่วยให้เริ่มต้นใช้การจัดการเวลาแบบ Time Blocking ได้ง่ายขึ้น
สำหรับมือใหม่ ลองใช้เครื่องมือฟรีเหล่านี้ดูครับ:
- ปฏิทิน Google (Google Calendar) : สามารถกำหนดสีให้กับแต่ละช่วงเวลาเพื่อให้การจัดการเป็นบล็อกๆ ทำได้ง่ายขึ้น
- แอป Focus App (Focus App) : มีฟังก์ชันจับเวลาสำหรับการจดจ่อ จึงช่วยให้สามารถมุ่งความสนใจไปที่งานเพียงอย่างเดียวได้ในช่วงเวลาที่กำหนด
- สมุดบันทึกวางแผน (Planner Notebook) : ถ้าชอบใช้สมุดบันทึกมากกว่าแบบดิจิทัล ลองใช้สมุดบันทึกเพื่อวางแผนวันของคุณดูครับ
การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ในการวางแผนวัน จะสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่
การจัดการเวลาแบบ Time Blocking ไม่ใช่แค่การวางแผนตารางงานในหนึ่งวัน แต่เป็นวิธีการจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ อาจรู้สึกยากในตอนแรก แต่ถ้าทำอย่างสม่ำเสมอ จะกลายเป็นวิธีการที่ช่วยให้ทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นพร้อมๆ กับลดความเครียด ลองจัดการเวลาแบบ Time Blocking สัก 30 นาทีในแต่ละวันดูไหมครับ? รับรองว่าวันของคุณจะยาวนานและผ่อนคลายขึ้น
ความคิดเห็น0